Tuesday, January 18, 2011

มาทำโอ่งดินเผา ปกคุมด้วยมอสสวยๆ แต่งบ้านให้เขียวขจีไปเลย

ลองทำโอ่งมอส...มาดูกันว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร......






มาเตรียมทำโอ่งกันเลยค่ะ



ก่อนอื่นเลยเราต้องมี โอ่ง ดินเหนียว และมอส....ผมเลือกโอ่งกลมๆ ใบเล็ก และทรงสูง (เหมือนไหงเอามาหมักปลาร้า) และทรงลูกจันคือกลมแบน...โอ่งที่เลือกควรจะมีผิวขรุขระ เพื่อที่จะให้ดินเหนียวและมอสยึดเกาะได้ดีครับ ที่ผมเลือกมานั้นราคาใบเล็ก 3 ใบร้อย ส่วนทรงลูกจันใบละ 40-50 บาทครับ ดินเหนียวก็ที่ขายอยู่ทั่วไป ตอนนี้ราคาน่าจะถุงละ 7-10 บาท ส่วนมอสนั้น โค-ตระ-ระแพง ถาดละ 50 บาท ที่ สนามหลวง2.... แต่ที่ เจเจ 3 ถาด 50 บาท เหมือนที่จตุจักร 2 แต่คุณภาพที่สนามหลวง 2 ได้คะแนนเกินร้อยครับ เป็นแพยาวมาก..... ไม่รู้ว่าถูกหรือแพงแต่คงไม่ต่างกันมาก





ขั้นตอนแรกผมก็ทำความสะอาดโอ่งให้เรียบร้อย แช่น้ำทิ้งไว้ เพื่อเพิ่มความชื้น แล้วก็เข้าสู่พิธีการแรกคือ ปั้นดินให้เป็นดาว.....เอาดินเหนียวแปะเข้าไปที่ผิวของโอ่งที่เราจะทำโอ่งมอส ลอง คิดว่ากำลังปั้นโอ่งดินเผา เหมือนหนังผี ไง (ภาพยนต์เรื่อง Ghost)....ให้มีความหนาสักหน่อย คือถ้าบางมากเกินไปมันจะเกาะไม่อยู่ครับ มอสอาจจะไม่งามเท่าไร แต่ก็ไม่ต้องหนามากเกินไปเพราะมันจะดูไม่สวยเท่าไหร่และเสี่ยงต่อการหลุดได้ง่ายๆครับ





หลังจากที่ปั้นโอ่งดินเผาให้กลายเป็นโอ่งดินเหนียวแล้ว เราก็เตรียมเอามอสที่ซื้อมาได้ ราคาขายแตกต่างกันนะครับตามตลาด ชนิดและคุณภาพของมอส มอสที่มีขายหลักๆ ในตลาดมี 2 แบบ คือ มอสน้ำ ที่เอามาทำโอ่งมอส จะมีลำต้นอวบน้ำ ใบจะใหญ่และยาวกว่า ดูแล้วมันจะฟูๆ ส่วนอีกชนิดจะเป็นมอสที่เอามาจัดสวนถาดครับ คือมอสที่เกิดและเกาะตามดิน อิฐ จะมีลักษณะแห้งกว่าและมีราคาที่ถูกกว่าครับ....หลังจากเลือกชิ้นที่ใช่แล้ว เราก็เอามอสน้ำมาแปะเข้าที่ดินเหนียว เริ่มจาก ปากโอ่ง โดยให้เหลือมอสบางส่วนที่ปากโอ่ง เพื่อเป็นตัวดูดน้ำมาให้มอสที่อยู่ด้านล่าง ผมแปะเป็นทางยาวจากบนลงล่างเพราะมอส ด้านบนจะช่วยพยุงไม่ให้มอสที่เหลือหลุด เราก็ค่อยๆ แปะมอสไปเรื่อยๆ เหมือนต่อจิกซอครับ จนกระทั้งครบทั้งหมด เวลาแปะก็เอานิ้วกดๆ ลงไปหน่อย แต่ไม่ต้องแรงมากเดี๋ยวมอสจะแบนตายก่อน พอแปะมอสเสร็จก็เป็นอันเสร็จพิธี เราก็จะได้โอ่งมอสที่ต้องการ แต่หลังจากนี้จะเป็นงานยักษ์แล้วนะครับ คือ การดูแลรักษาให้โอ่งมอสของเรารอด และมีชีวิต ออกใบใหม่เขียวขจีตลอดไป หาทำเลที่ได้แดดสัก ครึ่งวันเช้าได้จะดีมาก เพราะไม่ร้อนเกินไป แล้วเราก็เติมน้ำจนเต็มโอ่งครับ เวลารดน้ำก็ให้ค่อยๆ เติมน้ำลงที่โอ่ง ไม่ต้องไปรดน้ำที่มอสโดยตรง และค่อยๆรด เพราะถ้าแรงเกินไป มอสบางชิ้นอาจจะหลุดได้ครับ ช่วงนี้อากาศแห้ง ลมหนาวพัดแรง ความชื้นต่ำ ผมก็เลยลองเอาโอ่งมอสมาวางบนจานรองกระถางที่มีน้ำนิดหน่อย เพื่อเป็นการเพิ่มความชื้น แต่ต้องระวังอย่าให้มีน้ำในจานรองมากเกินไป เพราะมอสอาจจะเน่า และดินที่แปะไว้อาจจะละลายหลุดลงน้ำได้ครับ




หลังจากนี้ไปก็เพิ่งการดูแลแล้วละครับว่าจะรอดไหม ถ้ารอดก็ดีเพราะเราทำโอ่งธรรมดาให้มีชีวิตขึ้นมาได้ แต่ถ้ามีบางส่วนที่ตายไปบ้าง เราก็สามารถมาซ่อมแซมทีหลังได้ คือเอาดินเหนียวและมอสใหม่มาแปะซ่อมในส่วนที่เสียไปครับ แล้วถ้าต้องการให้มีต้นไม้อื่นๆ เราก็มาเติมทีหลังได้ เช่น พรมญี่ปุ่น ฤาษีผสมแคระ อื่นๆ..........ต้องขอบคุณพี่นู๋เอ๋ ที่แนะนำและให้ทราบเคล็ดลับในการทำ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าโอ่งมอสที่ทำไปนั้น มันจะรอดหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ มันก็สนุกดี ดีกว่าไปซื้อแบบสำเร็จรูปมา ถึงแม้มันจะรวดเร็ว แต่มันไม่เร้าใจ 555 แบบนี้สวยสั่งได้ด้วยมือครับ (ถ้ามันสวยอะนะ) เราสามารถใส่ปุ๋ยเม็ดสูตรเสมอ หรือเร่งใบ (ที่มีอยู่ที่บ้าน) ลงไปในโอ่งสักนิดหน่อยก็ได้ครับ ย้ำ นิดหน่อยนะครับ เพราะมันสิ้นเปลื้องและอาจจะเข้มข้นเกินไปสำหรับมอส......เราก็มารอดูว่า หลังจากที่มอสรอดชีวิตมาได้จะสวยงามเช่นใด......





No comments:

Post a Comment