Monday, March 14, 2011

ญี่ปุ่นที่ฉันเห็น ตอน ระเบียบวินัย ความตั้งใจ ชาตินิยม ลักษณะนิสัยคนญี่ปุ่น...

ญี่ปุ่นที่ฉันเห็น ตอน ระเบียบวินัย ความตั้งใจ ชาตินิยม ลักษณะนิสัยคนญี่ปุ่น...




ก่อนที่ฉันจะมาญี่ปุ่นฉันได้รับฟังรับทราบความเป็นไปของประเทศญี่ปุ่น ลักษณะนิสัยของคนญี่ปุ่นหลายด้าน ทั้งด้านบวก และด้านลบ จึงทำให้ฉันอยากมาสัมผัสคนญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวของฉันเอง



ฉันได้สัมผัสการทำงานในบริษัทของญี่ปุ่นครั้งแรกหลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ ทำให้ฉันได้ทราบว่าการทำงานกับคนญี่ปุ่นนั้นไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ฉันได้ร่วมงานด้วยเป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างไม่เปิดรับความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชานัก และโดยเฉพาะคนที่สื่อสารภาษากลางไม่ได้ ยิ่งทำให้ปัญหาในการทำงานมีมากขึ้น จากการไม่เข้าใจวัฒนธรรม จากการไม่เข้าใจความคิด และคำพูดของกันและกัน ฉันทำงานที่นั่นได้เพียงเดือนเดียว ฉันตัดสินใจลาออกเนื่องจากถูกใช้งานหนักเกินหน้าที่ ทำงานวันละไม่น้อยกว่าสิบสองชั่วโมงโดยได้รับค่าตอบแทน(ค่าล่วงเวลาอันจำกัด เรียกว่าทำงานเกินค่าจ้างอย่างมากค่ะ) และสุขภาพจิตแย่ลงเรื่อยๆ จากสภาพการทำงาน ฉันบอกตัวเองว่าจะไม่ทำงานที่มีเจ้านายเป็นคนญี่ปุ่นอีกตลอดชีวิตนี้



ต่อมาฉันได้รับฟังจากเพื่อนๆที่ทำงานอยู่บริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีบริษัทในเมืองไทย เล่าให้ฟังถึงข้อเสียและลักษณะนิสัยอันไม่พึงประสงค์ของบางคน แต่ขณะเดียวกันฉันก็ได้รับข้อมูลจากเพื่อนว่าคนญี่ปุ่นนั้นมีวินัยในการทำงานสูงมาก มีความรับผิดชอบสูงมาก และซื่อสัตย์ต่อหน้าที่แม้ว่าจะเป็นเพียงลูกจ้างของบริษัทเท่านั้น



ด้วยหลายเหตุผลหลังจากฉันสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกแล้วทำให้ฉันอยากสัมผัส อยากเรียนรู้ระบบการทำงานและการใช้ชีวิตในการทำงานกับคนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นคนแรกที่ฉันได้พูดคุยด้วยในประเทศญี่ปุ่น (ไม่นับรวม จนท สนามบิน และ ตรวจคนเข้าเมืองนะคะ) คือ เจ้านายของฉันเอง เพราะ ท่านไปรับฉันที่สนามบินนาริตะ เจ้านายขับรถของสถาบันวิจัยฯมารับเองในตอนเช้าประมาณ 8.00 นาฬิกา ระหว่างทางเจ้านายอธิบายรายละเอียดสองข้างทางไปตลอดทาง สลับการพูดคุยเรื่องส่วนตัวเรื่องโน้นเรื่องนี้หลายเรื่อง ทำให้ฉันรู้สึกว่าเจ้านายเป็นกันเองกับฉันมาก หลังจากที่ได้ทำงานกับเจ้านายและเพื่อนๆ ในกลุ่มซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด และมีคนจีนหนึ่งคน โชคดีที่คนกลุ่มนี้เกือบทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ ฉันจึงไม่ลำบากอะไรกับการสื่อสาร ยกเว้นเจ้าหน้าที่สนับสนุนสองคน หรือ ในเมืองไทยอาจจะเรียกเธอว่าแม่บ้าน ซึ่งสื่อสารได้ภาษาเดียวคือ ภาษาญี่ปุ่น

No comments:

Post a Comment