Tuesday, March 15, 2011

ร้านขายผ้าซอยวัดสน

ร้านขายผ้าซอยวัดสนถือได้ว่าเป็นตลาดใหม่มาก เรียกได้ว่าเป็นตลาดที่มีอายุไม่น่าจะเกิน 5 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อก่อนร้านผ้าในซอยวัดสนนี้จะไม่ได้มีมากอย่างที่เห็นนี้แต่อย่างใด เป็นเพียงแค่ ร้านที่ทำการสั่งซื้อเศษผ้า หรือ ผ้าที่เหลือจากโรงงานที่เป็นโรงทอผ้า เข้ามาวางขายให้กับคนที่ต้องการเอาไปใช้งานบางกลุ่มเท่านั้น แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้ผ่านปรากฏการณ์ที่เมืองไทยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่กระทบ (ในด้านดี) ให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้า และ ผ้ายืดในประเทศไทย มีกำลังซื้ออย่างมหาศาลนั่นก็คือ ปรากฏการณ์การรณรงค์ให้คนไทยใส่เสื้อเหลือง เพื่อเป็นเฉลิมฉลองเทินพระเกียรติในหลวงของปวงชนขาวไทยนั่นเอง





เหตุการณ์นี้ทำให้ ผ้ายืด มีความต้องการจากตลาดเป็นอย่างสูง ไม่ว่าจะผ้ายืดที่ทอลาย single jersey หรือผ้ายืดที่ทอเป็นลายปีเก้ทั้งสองลายนี้ถือได้ว่าเป็นผ้าเหลืองที่โดนเอาไปทำงานตัดเย็บมากกว่าผ้าประเภทอื่นๆ มากนัก (จะสังเกตว่าจะไม่ค่อยมีคนใส่ผ้าทอสักเท่าไหร่ที่เป็นเสื้อเหลือง) ที่มีการสั่งผลิตเป็นปริมาณมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะ ทุกคนไม่ได้มีเสื้อสีเหลืองอยู่แล้ว แล้วก็เป็นสีที่ไม่เคยเอามาใส่ในงานทั่วไปมากนัก เพราะลองคิดดูครับว่าถ้าหากว่าเป็นผ้าเหลือง หรือเสื้อเหลืองแล้วเอาไปในงานเลี้ยงสังสรรค์ มันก็จะดูเด่นกว่าคนอื่นเอามากๆครับ ถ้าคุณลองมองเข้าไปที่ตู้เสื้อผ้าของคุณเองก่อนเหตุการณ์เสื้อเหลืองนี้ คุณจะพบว่าในตู้เสื้อผ้าของคุณจะไม่มีเสื้อเหลืองให้ใส่กันสักเท่าไหร่ครับ เรียกได้ว่าเป็นไม่มีเลยก็ว่าได้ถ้าหากว่าบางคนที่ไม่ได้เป็นพวกแฟชั่นจ๋าสักเท่าไหร่ แล้วก็ Trend fashion ต่างๆ จากการสังเกตผมก็ไม่เห็นสีเหลืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับ Trend fashion ต่างๆเหล่านี้ถ้าหากว่ามีก็มีไม่มากนัก แล้วมันก็จะออกมาเป็น Trend fashion ของ summer collection เสียมากกว่า หน้าอื่นๆ ไม่ว่าเป็น fashion spring หรือว่า fashion trend winter ก็ไม่เคยเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ



เมื่อทุกคนไม่มีเสื้อเหลืองใน แต่ว่าทุกคนอยากจะร่วมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ทำให้ต้องหา ซื้อเสื้อใหม่มาแทบทั้งหมดครับ ยิ่งไปว่ากว่านั้น เมื่อมีคนใส่มาก ทำให้คนอื่นก็ต้องใส่ตาม แล้วยิ่งไปกว่านั้นเข้าไปอีกคือ ภาครัฐ และ องค์กรเอกชนทั้งหลายก็เอาอย่างกันคือ บังคับให้คนในองค์กรของตัวเองใส่เสื้อเหลือง และ ถึงกับมีช่วงเวลานึงที่ “ทุกคนใส่เสื้อเหลือง” ทุกวันติดต่อกันเป็นเวลาเจ็ดวัน ทำให้ต้องซื้อเสื้อมากขึ้นไปอีก เพราะไม่มีใครหรอกครับที่มีเสื้อเหลืองมากเพียงพอถ้าหากว่าไม่ได้ซื้อใหม่ก็ไม่สามารถที่จะหาเสื้อสีเหลืองเท่าที่ตัวเองมีมาใส่กันให้พอกับความต้องการ (หรือจำเป็น) ที่จะต้องใส่ทั้งเจ็ดวันต่อสัปดาห์ได้ครับ

No comments:

Post a Comment